เมนู

อรรถกถาอรหัตตสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอรหัตตสูตรที่ 2 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปมาทํ ได้แก่ การอยู่อย่างปราศจากสติ.
จบอรรถกถาอรหัตตสูตรที่ 2

3. มิตตสูตร


ว่าด้วยคุณและโทษของการมีมิตร


[338] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรลามก มีสหายลามก มี
เพื่อนฝูงสามก เสพ คบ เข้าไปนั่งใกล้มิตรลามกและประพฤติตามมิตรลามก
เหล่านั้นอยู่ จักบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ ข้อนี้ไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ ภิกษุไม่บำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์แล้ว
จักบำเพ็ญเสขธรรมให้บริบูรณ์ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ไม่บำเพ็ญเสขธรรม
ให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ไม่บำเพ็ญศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์แล้ว จักละกามราคะ รูปราคะ หรืออรูปราคะ
ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนฝูงดี เสพ
คบ เข้าไปนั่งใกล้มิตรดี และประพฤติตามมิตรเหล่านั้นอยู่ จักบำเพ็ญธรรม
คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ บำเพ็ญธรรม
คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ จักบำเพ็ญเสขธรรมให้บริบูรณ์ ข้อนี้ย่อม

เป็นฐานะที่จะมีได้ บำเพ็ญเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญศีลทั้งหลาย
ให้บริบูรณ์ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ บำเพ็ญศีลให้บริบูรณ์แล้ว จัก
ละกามราคะ รูปราคะ หรืออรูปราคะ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้.
จบมิตตสูตรที่ 3

อรรถกถามิตตสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในมิตตสูตรที่ 3 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อาภิสมาจาริกํ ได้แก่ ธรรมที่เป็นสมาจารสูงสุด คือศีลที่
เป็นข้อบัญญัติ ด้วยสามารถแห่งวัตร. บทว่า เสขธมฺมํ ได้แก่ ศีลที่เป็น
ข้อบัญญัติเกี่ยวกับเสขิยวัตร บทว่า สีลานิ ได้แก่ มหาศีล 4 อย่าง.
จบอรรถกถามิตตสูตรที่ 3

4. ฐานสูตร (อารามสูตร)


ว่าด้วยโทษการคลุกคลีคณะและคุณการไม่คลุกคลี


[339] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชอบคลุกคลีด้วยหมู่ ยินดีในการ
คลุกคลีด้วยหมู่ ประกอบความยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่ ชอบคณะ ยินดี
คณะ ประกอบความยินดีในคณะ จักเป็นผู้อยู่รูปเดียว ยินดียิ่งในวิเวก ข้อนี้
ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่อยู่รูปเดียว ยินดียิ่งในวิเวก จักถือนิมิตแห่งจิต
ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ถือนิมิตแห่งจิต จักบำเพ็ญสัมมาทิฏฐิให้